กู้ร่วมซื้อบ้าน ใครกู้ร่วมได้บ้าง?
กู้ร่วมซื้อบ้าน ทางออกสำหรับคนอยากมีบ้าน เปิดครบทุกเงื่อนไข ใครกู้ร่วมได้บ้าง?
การมี “บ้าน” เป็นของตัวเองคือความฝันอันดับต้นๆ ของใครหลายคน แต่ในยุคที่ราคาอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้น การยื่นขอสินเชื่อด้วยรายได้จากคนเพียงคนเดียวอาจไม่ใช่เรื่องง่าย ทำให้วงเงินที่ได้รับไม่เพียงพอต่อบ้านในฝัน หรืออาจถูกธนาคารปฏิเสธคำขอไปอย่างน่าเสียดาย แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะ “การกู้ร่วมซื้อบ้าน” คือหนึ่งในทางออกที่ดีที่สุดที่จะช่วยสานฝันของคุณให้เป็นจริง บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมของการกู้ร่วม ตั้งแต่ข้อดี ข้อควรระวัง และที่สำคัญที่สุดคือ “ใครบ้าง” ที่จะสามารถมาเป็นผู้กู้ร่วมกับเราได้
การกู้ร่วมซื้อบ้าน คืออะไร?
การกู้ร่วมซื้อบ้าน (Joint Loan) คือ การที่บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ทำสัญญาเป็นลูกหนี้ร่วมกันเพื่อยื่นขอสินเชื่อซื้อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงิน โดยธนาคารจะนำรายได้และความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ทั้งหมดมาพิจารณาร่วมกัน ทำให้มีความน่าเชื่อถือทางการเงินสูงขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อการอนุมัติวงเงินที่สูงขึ้นและโอกาสในการได้รับอนุมัติที่ง่ายขึ้นตามไปด้วย
โดยผู้กู้ร่วมทุกคนจะมีสถานะเป็น “ลูกหนี้ร่วม” และมี “กรรมสิทธิ์” ในทรัพย์สินนั้นร่วมกัน ต้องรับผิดชอบในภาระหนี้สินทั้งหมดเท่าๆ กัน ไม่ว่าสัดส่วนการผ่อนชำระจริงจะเป็นอย่างไรก็ตาม
ใครสามารถกู้ร่วมกับเราได้บ้าง?
หลายคนอาจเข้าใจว่าการกู้ร่วมจำกัดอยู่แค่สามี-ภรรยา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ธนาคารเปิดกว้างให้บุคคลที่มีความสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบสามารถกู้ร่วมกันได้ โดยแบ่งเป็นกลุ่มหลักๆ ดังนี้
1. ผู้ที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด เป็นกลุ่มที่ธนาคารให้การยอมรับมากที่สุดและมีโอกาสอนุมัติง่ายที่สุด เพราะมีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนและแน่นแฟ้น
- พ่อ-แม่ กู้ร่วมกับ ลูก
- พี่-น้อง ท้องเดียวกัน กู้ร่วมกัน
- ปู่-ย่า-ตา-ยาย กู้ร่วมกับ หลาน (อาจมีเงื่อนไขเรื่องอายุของผู้กู้หลัก)
2. สามี-ภรรยา
- คู่สมรสที่จดทะเบียน: เป็นรูปแบบที่ง่ายที่สุด เพียงใช้ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐาน
- คู่สมรสที่ไม่ได้จดทะเบียน: สามารถกู้ร่วมได้ แต่ต้องแสดงหลักฐานที่พิสูจน์ความสัมพันธ์และการใช้ชีวิตร่วมกัน เช่น ภาพถ่ายงานแต่ง, ทะเบียนบ้านที่อยู่ด้วยกัน, ใบเกิดของบุตร (หากมี) หรือเอกสารทางการเงินที่ทำร่วมกัน
3. คู่รักเพศเดียวกัน หรือกลุ่ม LGBTQ+ ในปัจจุบัน หลายธนาคารเริ่มเปิดกว้างและยอมรับการกู้ร่วมของคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศมากขึ้น โดยอาจต้องใช้เอกสารแสดงความสัมพันธ์ที่ชัดเจน เช่น บัญชีเงินฝากที่เปิดร่วมกัน, การทำธุรกิจร่วมกัน หรือเอกสารยืนยันการอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยา เพื่อประกอบการพิจารณา
4. บุคคลอื่นที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด เช่น เพื่อนสนิท หรือญาติห่างๆ กรณีนี้ถือเป็นกรณีที่ยากที่สุดและมีโอกาสอนุมัติน้อยมาก เนื่องจากธนาคารมองว่ามีความเสี่ยงสูงในความสัมพันธ์ระยะยาว อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับนโยบายและดุลยพินิจของแต่ละธนาคารโดยเฉพาะ
เปิดข้อดี-ข้อควรระวัง ของการกู้ร่วมซื้อบ้าน
การตัดสินใจกู้ร่วมเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ มาดูกันว่ามีข้อดีและข้อควรระวังอะไรบ้าง
ข้อดีของการกู้ร่วม
- เพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ: เมื่อมีผู้กู้ร่วม ธนาคารจะมองว่าความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ลดลง เพราะมีคนช่วยรับผิดชอบมากกว่าหนึ่งคน
- ได้รับวงเงินกู้ที่สูงขึ้น: การนำรายได้ของผู้กู้ร่วมมาคำนวณรวมกัน ทำให้ความสามารถในการผ่อนชำระสูงขึ้น คุณจึงสามารถซื้อบ้านในราคาที่สูงขึ้นหรือในทำเลที่ดีกว่าเดิมได้
- ช่วยกันแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย: ไม่ว่าจะเป็นค่างวดในแต่ละเดือน ค่าตกแต่ง หรือค่าส่วนกลาง ก็สามารถช่วยเหลือแบ่งเบากันได้
ข้อควรระวังที่ต้องตกลงกันให้ดี
- ภาระหนี้สินร่วมกัน: หากผู้กู้ร่วมคนใดคนหนึ่งผิดนัดชำระหนี้ ธนาคารมีสิทธิ์เรียกเก็บหนี้ทั้งหมดจากผู้กู้ร่วมอีกคนได้ และประวัติเสียในเครดิตบูโรจะปรากฏขึ้นกับผู้กู้ร่วมทุกคน
- กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินเป็นของทุกคน: ผู้กู้ร่วมทุกคนจะมีชื่อเป็นเจ้าของในโฉนดที่ดิน การตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับบ้านหลังนี้ เช่น การขาย, รีไฟแนนซ์ หรือต่อเติม จะต้องได้รับความยินยอมจากทุกคน
- การถอนชื่อออกจากสัญญาทำได้ยาก: หากในอนาคตความสัมพันธ์เปลี่ยนแปลงไป เช่น คู่รักเลิกรา หรือพี่น้องต้องการแยกย้าย การถอนชื่อผู้กู้ร่วมออกจากสัญญามีขั้นตอนที่ซับซ้อนและต้องได้รับความยินยอมจากธนาคาร
- กระทบความสามารถในการกู้ในอนาคต: การมีชื่อเป็นผู้กู้ร่วม จะทำให้ความสามารถในการสร้างหนี้เพื่อซื้อทรัพย์สินอื่นในอนาคตของแต่ละคนลดลง
กู้ร่วม…เมื่อมั่นใจและสื่อสารชัดเจน
การกู้ร่วมซื้อบ้านเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ยอดเยี่ยมและเป็นประตูบานสำคัญที่ช่วยให้หลายคนสามารถเป็นเจ้าของบ้านในฝันได้สำเร็จ แต่หัวใจสำคัญที่สุดคือ “ความสัมพันธ์” และ “ความไว้วางใจ” ระหว่างผู้กู้ร่วม
ก่อนตัดสินใจ ควรพูดคุยถึงแผนการเงินในระยะยาวให้ชัดเจน จัดทำข้อตกลงเรื่องสัดส่วนการผ่อนและกรรมสิทธิ์เป็นลายลักษณ์อักษร และเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หากคุณมีการวางแผนที่ดีและเลือกผู้กู้ร่วมที่ใช่ การมีบ้านสักหลังก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝันอีกต่อไป
| หัวข้อ | รายละเอียด |
| 🏡 การกู้ร่วมคืออะไร? | การที่บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ยื่นขอสินเชื่อซื้อบ้านร่วมกัน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือทางการเงิน ทำให้ได้วงเงินสูงขึ้น และมีโอกาสอนุมัติง่ายขึ้น |
| 👍 ข้อดี | 1. เพิ่มวงเงินกู้ : รวมรายได้ ทำให้กู้ได้มากขึ้น 2. อนุมัติง่ายขึ้น : ลดความเสี่ยงของธนาคาร 3. แบ่งเบาภาระ : ช่วยกันผ่อนชำระค่างวด |
| 🤔 ข้อควรระวัง | 1. ภาระหนี้ร่วม : หากคนหนึ่งผิดนัด ทุกคนต้องรับผิดชอบ 2. กรรมสิทธิ์ร่วม : มีชื่อเป็นเจ้าของร่วมกันทุกคน 3. ถอนชื่อยาก : หากต้องการถอนชื่อในอนาคตมีขั้นตอนซับซ้อน 4. กระทบเครดิต : สถานะหนี้จะปรากฏในเครดิตบูโรของทุกคน |
| ❤️ ใครกู้ร่วมได้บ้าง? | 1. มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด : พ่อ, แม่, พี่, น้อง, ลูก 2. สามี-ภรรยา : ทั้งจดและไม่จดทะเบียน (ต้องพิสูจน์ความสัมพันธ์) 3. คู่รัก LGBTQ+ : บางธนาคารเปิดกว้าง (ต้องมีเอกสารแสดงความสัมพันธ์) 4. อื่นๆ : ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร |
| 🔑 Key Success | สื่อสารอย่างเปิดเผย, วางแผนการเงินร่วมกัน, ทำสัญญาข้อตกลงที่ชัดเจน |
https://www.facebook.com/belle.bellelief | https://www.youtube.com/@belle.bellelief